
เปิดผังแม่บท Formula One Thailand Grand Prix 2028: เผยโฉมหน้าสนาม F1 แห่งแรกของไทยใจกลางกรุงเทพฯ และแผนพัฒนาเมืองครั้งใหญ่
3 วันที่แล้ว
ใช้เวลาอ่าน 3 นาที
4
11
0

Formula One (F1): จากสนามความเร็วสู่กลไกการยกระดับเมือง
Formula One หรือ F1 ไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก หากแต่เป็นอุตสาหกรรมระดับโลกที่สร้างแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการพัฒนาเมืองอย่างลึกซึ้งในทุกพื้นที่ที่เป็นเจ้าภาพ
ด้วยปฏิทินการแข่งขันที่เดินทางครบทั้ง 5 ทวีป F1 ทำหน้าที่เสมือน “แพลตฟอร์มเศรษฐกิจและแบรนด์เมือง” ที่ทรงอิทธิพล เมืองเจ้าภาพต่างใช้เวทีนี้ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของตนผ่านฉากหลังของการแข่งขัน ตั้งแต่เสน่ห์ริมอ่าวของโมนาโกไปจนถึงภาพลักษณ์ความบันเทิงของลาสเวกัส ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสนามแข่ง หากยังแผ่ขยายไปถึงธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม การคมนาคม พื้นที่เมือง และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในวงกว้าง
สำหรับหลายประเทศ การเป็นเจ้าภาพ F1 จึงไม่เพียงดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเพื่อสร้างพลวัตทางเศรษฐกิจระยะยาว แต่ยังเป็นยุทธศาสตร์ด้านภาพลักษณ์เมืองที่สำคัญ ส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและยกระดับมาตรฐานเมืองเข้าสู่เวทีสากล
บทความนี้ LAD จะพาผู้อ่านสำรวจความสัมพันธ์ระหว่าง F1 และเมือง ผ่านมิติของโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนภาครัฐ–เอกชน และแนวคิดการออกแบบภาพลักษณ์เมืองผ่านกรณีศึกษา 5 เมืองต้นแบบ ที่ใช้ F1 เป็น “ตัวเร่งปฏิกิริยา” ในการสร้างภาพจำบนเวทีโลก
ก่อนปิดท้ายด้วยคำถามสำคัญว่า ประเทศไทยพร้อมแค่ไหน เมื่อกำลังก้าวขึ้นสู่เวทีเดียวกันในระดับนานาชาติ?

กรณีศึกษา 5 เมือง F1 ที่สร้างภาพจำของเมืองระดับโลก
Singapore Grand Prix: สนาม “กลางเมือง + กลางคืน” สู่ภาพลักษณ์ของเมืองที่ไม่หลับใหล
สิงคโปร์เป็นหนึ่งในตัวอย่างชัดเจนที่สุดของเมืองที่ใช้การแข่งขัน Formula One เป็นเครื่องมือยกระดับเศรษฐกิจและภาพลักษณ์เมืองแบบครบมิติ โดยสนาม Marina Bay Street Circuit ซึ่งเปิดใช้ครั้งแรกในปี 2008 ถือเป็นสนามกลางเมือง (street circuit) แห่งแรกของเอเชียและเป็นสนาม “Night Race” แห่งแรกของโลก การแข่งขัน F1 ที่สิงคโปร์จึงไม่ใช่เพียงกีฬา หากเป็นเทศกาลขนาดใหญ่ที่ผสานกีฬา แสง สี ดนตรี ไลฟ์สไตล์ และกิจกรรมท่องเที่ยวภายใต้ฤดูกาล “Grand Prix Season Singapore (GPSS)” ที่กระจาย ไปทั่วเมือง ซึ่งทำให้การแข่งขันกลายเป็น Event Destination ที่แท้จริงมากกว่าอีเวนต์เชิงกีฬาแบบปิดพื้นที่
ผลลัพธ์เชิงเศรษฐกิจของสิงคโปร์เป็นหลักฐานสำคัญของพลัง F1 ในการพัฒนาเมือง โดยตั้งแต่ปี 2008 สิงคโปร์ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมกว่า 720,000 คน และสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวรวมกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ข้อมูลจากกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ – MTI) ขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก Visa ยังระบุว่าในสัปดาห์ของการแข่งขัน ยอดใช้จ่ายด้านร้านอาหาร ช้อปปิ้ง และความบันเทิงของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเกือบ 90% สะท้อนว่า F1 สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองทั้งระบบ โดยเฉพาะเศรษฐกิจกลางคืนและธุรกิจบริการที่พึ่งพานักท่องเที่ยวคุณภาพสูง
นอกจากมิติทางเศรษฐกิจแล้ว Singapore Grand Prix ยังถูกใช้เป็นกลไกสร้างแบรนด์เมืองอย่างชัดเจน โดยการออกแบบเส้นทางแข่งขันที่เผยให้เห็นภาพลักษณ์เมืองริมอ่าว Marina Bay รวมถึงจุดหมายทางสถาปัตยกรรมระดับโลก เช่น Esplanade, Helix Bridge และตึกระฟ้าในย่านการเงิน งานวิจัยด้านสถาปัตยกรรมเมืองชี้ว่า ความผสมผสานของ “การวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบวงจร และการถ่ายทอดฉากเมือง” เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผู้ชมทั่วโลกจดจำสิงคโปร์ในฐานะเมืองที่มีศักยภาพด้านกีฬา การท่องเที่ยว และคุณภาพเมืองระดับสากล

Monte Carlo, Monaco Grand Prix: ราชาแห่งสนามเมือง และสถาปัตยกรรมทางวัฒนธรรม
สนามแข่ง Circuit de Monaco ที่ใช้ใน Monaco Grand Prix ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่เป็น “สนามแข่งเฉพาะทาง” แต่ใช้เส้นทางถนนจริงของเมือง Monte Carlo และย่านท่าเรือริมทะเลแบบเมดิเตอร์เรเนียนร่วมกับพื้นที่เมืองหลวงของรัฐอิสระ Monaco จึงถือเป็น “street circuit” ที่มีเอกลักษณ์พิเศษเหนือใครเมื่อ “เมืองทั้งเมืองที่กลายเป็นสนามแข่ง” ด้วย ถนนที่คดเคี้ยว แคบ แ ละระดับความสูงที่เปลี่ยนตลอดเส้นทาง สร้างความท้าทายให้กับนักแข่ง และส่งมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้ชม ทั้งแสง สี เสียง เรือยอชต์ อาคารหรู และภูมิทัศน์เมืองที่งดงามเป็นฉากหลัง
นับว่า Monaco Grand Prix เป็นบทพิสูจน์ว่า “สถาปัตยกรรมเมือง + ผังเมือง + ความเป็นเมืองยุโรปแบบคลาสสิก” สามารถผสานกับกีฬาแข่งรถระดับโลกได้อย่างลงตัว โดยไม่จำเป็นต้องสร้างสนามใหม่ขนาดใหญ่ และในแง่ของแบรนด์เมือง Monaco ไม่ได้เพียงเป็นสถานที่แข่งขัน แต่คือ “สัญลักษณ์ของความหรูหรา ความคลาสสิก และความตื่นเต้น” ของ F1 เป็นเหตุผลที่ทำให้ Grand Prix ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน “Crown Jewels” ของโลกมอเตอร์สปอร์ต

Baku, Azerbaijan Grand Prix: สถาปัตยกรรมเมืองเก่า ตัดกับเส้นขอบฟ้าเมืองใหม่
Baku City Circuit คือหนึ่งในแทร็ก “street circuit” ที่โดดเด่นที่สุดของ F1 ด้วยสนามที่พาดผ่านทั้งย่านเมืองเก่า ทะเลแคสเปียน และใจกลางเมืองใหม่ของ Baku เมืองหลวงของ Azerbaijan ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มอเตอร์สปอร์ตสามารถอยู่ควบคู่กับมรดกวัฒนธรรม และวิวเมืองสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
จุดที่ทำให้สนามแห่งนี้โดดเด่นคือ “ความขัดแย้งแต่สมดุล” ระหว่างทางตรงยาวที่เปิดโอกาสให้รถพุ่งด้วยความเร็วสูง กับช่วงโค้งแคบซึ่งพาดผ่านบริเวณกำแพงเมืองเก่า (Old City) ซึ่งถือเป็นพื้นที่มรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมือง สร้างบรรยากาศที่ทั้งโบราณและทันสมัย กลายเป็นภาพจำที่ไม่เหมือนใครในโลกของ F1 และกลายเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Azerbaijan Grand Prix ขึ้นชื่อว่าเป็น “หนึ่งในสนามที่งดงามที่สุด”
ในแง่ของการพัฒนาเมืองและภาพลักษณ์ Baku ได้ใช้ F1 เป็นเวทีเผยโฉมเมืองทั้งเก่าและใหม่ พร้อมกันไป ตลอดจนผลักดันการท่องเที่ยวและกระตุ้นให้เมืองก ลายเป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์ทั้งด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความล้ำสมัย บ่งชี้ว่า “มรดก + โมเดิร์น + สปอร์ต” สามารถอยู่ร่วมกันได้ และเสน่ห์แบบผสมนี้มักส่งผลต่อภาพลักษณ์ระดับโลกของเมือง

Las Vegas, USA Grand Prix: การแข่งขัน F1 กลายเป็นส่วนหนึ่งของ “การแสดงโชว์ของเมือง”
การจัด F1 ที่เมืองลาสเวกัส ผ่านสนาม Las Vegas Strip Circuit คือกรณีศึกษาที่ชัดเจนของการใช้การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก เป็นเวทีใหญ่สำหรับ “โชว์เมือง + สร้างแบรนด์” มากกว่าการแข่งรถเพียงอย่างเดียว
Las Vegas Strip Circuit เป็น “street circuit” กลางเมืองที่พาดผ่านถนนหลักอันขึ้นชื่อของเมือง โดยมีทางตรงยาวผ่านแลนด์มาร์ก โรงแรม และคาสิโนชื่อดังของเมือง สร้างโอกาสให้รถแข่งพุ่งผ่านใจกลางแสงสีของเมืองอย่างเต็มตาในบรรยากาศกลางคืนที่ไม่เหมือนใคร
การแข่งขัน “กลางคืน” (Night Race) พร้อมกับฉากหลังของแสงไฟ นีออน และสถาปัตยกรรมระดับโลกของลาสเวกัส กลายเป็นส่วนหนึ่งของสุนทรียะเมือง (urban spectacle) ที่ตอกย้ำนิยาม “เมืองที่ไม่เคยหลับ” จาก ไลฟ์ สไตล์ และการบันเทิง มาออกแบบประสบการณ์ที่ครอบคลุมทั้งกีฬาและวัฒนธรรมสมัยใหม่ และยังผสานความบันเทิงและกิจกรรมเมืองโดยรอบอย่างครบวงจร ทั้งคอนเสิร์ต แสงสี ชีวิตกลางคืน พิธีการพิเศษ และการออกแบบประสบการณ์ให้แฟน ๆ “ได้สัมผัสเมือง” อย่างเต็มที่เป็นเวลาหลายวัน (race weekend) ทำให้การแข่งขันกลายเป็น “เทศกาลเมือง” (urban festival) ไม่ต่างกับการแสดงใหญ่ระดับโลก

Melbourne, Australia Grand Prix: การใช้สวนสาธารณะเป็นสนามแข่ง
เมื่อ F1 มาถึงเมลเบิร์น เมืองใช้ Albert Park สวนสาธารณะพร้อมทะเลสาบและพื้นที่สีเขียว เป็นพื้นฐานของสนามแข่ง “street circuit” แบบกึ่งถาวร (half-permanent) ที่รวมถนนสาธารณะกับโครงสร้างชั่วคราวสำหรับการแข่งขันไว้ด้วยกัน เมื่อไม่ใช่ช่วงจัดการแข่งขัน ถนนกลับเป็นถนนสาธารณะที่รถยนต์ทั่วไปสามารถใช้งานได้ตามปกติ
การเลือกใช้สวนสาธารณะเป็นสนามแข่งเปิดโอกาสให้เมลเบิร์นแสดง “ความเป็นเมือง-ธรรมชาติ-กีฬา” พร้อมกัน และยังส่งเสริมให้พื้นที่สีเขียว ที่มักเป็นพื้นที่สันทนาการสำหรับชุมชน กลายเป็นเวทีระดับโลก ส่งเสริมภาพลักษณ์เมืองที่รองรับกีฬาใหญ่ เทศกาล และการท่องเที่ยว ทั้งยังดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาช่วงเวลาหนึ่งของปี ทำให้เมืองได้รับความสนใจมากขึ้นจากสายตาระดับนานาชาติ
อย่างไรก็ตาม การทำให้สวนสาธารณะรองรับ F1 ไม่ใช่เรื่องไม่มีข้อท้าทาย ในทุกปี ทีมงานจำเป็นต้องติดตั้งและรื้อถอนรั้วชั่วคราว Barrier และ grandstands พร้อมระบบความปลอดภัยต่างๆ ล่วงหน้าหลายสัปดาห์ ส่งผลให้ “การเข้าถึงพื้นที่สาธารณะ” ถูกจำกัดอย่างมีนัยสำคัญตลอดช่วงก่อน–หลังการแข่งขัน โดยมีการพูดถึงผลกระทบต่อชุมชน ทั้งเรื่องการใช้พื้นที่สีเขียว มลพิษ เสียง และการจำกัดการใช้สวนของประชาชนในช่วงเวลาหนึ่งของปี
ในแง่มุมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เมื่อเมืองมีชื่อเสียงจากการเป็นเจ้าภาพ Australian Grand Prix แล้ว เมลเบิร์นได้รับเม็ดเงินหมุนเวียนในธุรกิจบริการ โรงแรม ร้านอาหาร และการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุดการแข่งขันที่กลับมาอย่างเต็มรูปแบบหลังโควิดได้รับเสียงตอบรับสูง และถูกมองว่าเป็นหนึ่งในกลไกฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของรัฐและเมือง

จากกรณีศึกษาหลายเมืองทั่วโลกที่ใช้ F1 เป็นเครื่องมือขับเคลื่อน พบข้อสรุปสำคัญร่วมกันว่า “การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับสากล” ก้าวข้ามสถานะของกีฬาไปไกลกว่านั้น และมีศักยภาพมหาศาลในการทำหน้าที่เป็น ตัวเร่งเชิงยุทธศาสตร์เมืองที่ทรงพลังยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพจำของเมืองบนเวทีโลก การยกระดับสมรรถนะของเมืองให้พร้อมรองรับมหกรรมระดับนานาชาติอย่างมีคุณภาพ หรือการจัดการผลกระทบต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมอย่างรอบด้าน ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า F1 ไม่ได้เป็นเพียงอีเวนต์หนึ่งในปฏิทินกีฬา หากเป็นบททดสอบความพร้อมของเมือง และเป็นจุดเริ่มต้นของการวางยุทธศาสตร์เมืองที่มุ่งสู่มาตรฐานสากล

“F1 Thailand 2028: บททดสอบครั้งใหญ่ของกรุงเทพฯ บนเวทีเมืองระดับโลก”
สำหรับประเทศไทยเดินหน้าเข้าสู่เวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก หลังการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยแนวคิดและรายละเอียดเบื้องต้นขอ งสนามแข่งขันในโครงการ F1 Thailand Grand Prix 2028 ซึ่งมีเป้าหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน F1 ครั้งแรกของประเทศ ในช่วงปี พ.ศ. 2571–2575 รวม 5 ปีติดต่อกัน คาดการณ์ช่วงจัดการแข่งขันจะอยู่ในเดือน มีนาคมหรือกันยายน ของทุกปี ใช้เวลาจัดงานทั้งหมด 3 วัน ตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ คล้ายกับรูปแบบการแข่งขัน F1 ทั่วโลกที่มีทั้ง
ทดลองขับ (Practice)
จ ัดอันดับ (Qualifying)
แข่งขันจริง (Race Day)
แบบร่างสนามกำหนดให้ใช้พื้นที่ย่านจตุจักรเป็นแกนหลัก โดยมีสนามแข่งยาว 5.732 กม. ใจกลาง “จตุจักร–สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” วางรูปแบบเป็นสนามแบบวิ่งตามเข็มนาฬิกา (clockwise street circuit) ผ่านพื้นที่สำคัญ 8 แห่ง ได้แก่
1. สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
2. สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร)
3. ตลาดนัดจตุจักร
4. สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ
5. สวนจตุจักร
6. สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)
7. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
8. พื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (เขตบ้านพักรถไฟ)
การออกแบบลักษณะนี้ทำให้สนามไทยเป็นสนามแข่งในเมือง (street circuits) ที่ผสาน “เมือง–สวนสาธารณะ–ระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่” ในแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเมื่อเทียบกับเจ้าภาพ F1 เมืองอื่นทั่วโลก

F1: กลไกผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางอีเวนต์ระดับโลก
การผลักดันให้ไทยจัด F1 ไม่ได้มีความหมายเพียงการจัดการแข่งขันกีฬา แต่ถูกวางให้เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของรัฐบาลเพื่อยกระดับประเทศไทยสู่ World Class Event Hub โดยคาดหวังผลประโยชน์หลายด้าน ได้แก่
กระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มด้านท่องเที่ยว
สร้างภาพลักษณ์ประเทศในระดับนานาชาติ
พัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านมอเตอร์สปอร์ต
ต่อยอดธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมอีเวนต์ การสื่อสาร การขนส่ง และบริการท่องเที่ยว
การเป็นเจ้าภาพ F1 จึงถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความพร้อมในการรองรับอีเวนต์ระดับโลกขนาดใหญ่ และเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจที่ หลายเมืองทั่วโลกใช้สร้างแบรนด์เมืองในระยะยาว

ผลกระทบและประเด็นที่ต้องรับฟังเสียงประชาชน
เนื่องจากสนามมีลักษณะเป็นสตรีทเซอร์กิต การใช้พื้นที่สาธารณะจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ กกท.จึงจัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นสาธารณะ เพื่อประเมินความต้องการของประชาชนและแนวทางลดผลกระทบ ซึ่งประเด็นสำคัญที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้แก่
1) ผลกระทบด้านการจราจร
การปิดถนนบางส่ว นในช่วงสร้างสนาม (ใช้เวลาประมาณ 1–2 ปี ทำทีละโซน)
การปิดเส้นทางเพิ่มเติมในช่วงเตรียมงาน (ประมาณ 1 เดือนก่อนแข่ง)
เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบ เช่น ถนนกำแพงเพชร 2–6, ถนนพหลโยธิน, ถนนเทิดดำริ
2) การใช้พื้นที่สวนสาธารณะ 3 แห่ง
สวนจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และสวนวชิรเบญจทัศ อาจต้องปิดพื้นที่บางส่วนช่วงก่อสร้างและจัดงาน ส่งผลให้บางโซนไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว
3) ผลกระทบต่อการเดินรถและจุดรอรถ
ต้องปรับการเดินรถสาธารณะบางส่วน รวมถึงย้ายจุดรอรถในบางตำแหน่ง เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางสนามแข่ง
4) ผลกระทบต่อตลาดนัดจตุจักร
การก่อสร้างและเตรียมงานอาจส่งผลต่อผู้ค้าและผู้มาใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ในวันแข่งจริง ตลาดจะเปิดตามปกติ โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
ไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่อีเวนต์ระดับโลก แต่ต้องจัดการผลกระทบอย่างสมดุล
ภายใต้บริบทนี้ แนวคิดการนำ F1 เข้าสู่ประเทศไทยจึงไม่ใช่เพียงการเป็นเจ้าภาพกีฬาระดับโลก หากเป็นการกำหนดทิศทางใหม่ให้เมืองและประเทศสามารถก้าวสู่มาตรฐานสากล ผ่านการพัฒนาระบบขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน พื้นที่สาธารณะ และกลยุทธ์แบรนด์เมืองอย่างบูรณาการ เมื่อมองผ่านประสบการณ์ของนครชั้นนำทั่วโลก การพา F1 มาสู่ไทยจึงหมายถึงการสร้าง “แพลตฟอร์มการพัฒนาเมือง” ที่พร้อมยกระดับศักยภาพของกรุงเทพฯ และประเทศไทยให้ทัดเทียมมหานครระดับโลกในอนาคต
การจัด F1 ในไทยถือเป็นหมุดหมายครั้งสำคัญที่อาจเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตของประเทศ พร้อมยกระดับกรุงเทพฯ ให้ก้าวสู่เวทีเมืองเจ้าภาพระดับโลก แต่ในขณะเดียวกัน การใช้พื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ย่อมมาพร้อมคำถามด้านการบริหารจัดการ ผลกระทบต่อชุมชน และความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจในระยะยาว เสียงของประชาชนและการวางแผนอย่างรอบด้านจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้ว่า Formula One Thailand Grand Prix จะเป็นโอกาสทอง หรือภาระของเมือง
สมการระหว่างกีฬา เมือง และการพัฒนาเชิงพื้นที่อันซับซ้อน กำลังจะกลายเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของประเทศไทย—ว่าพร้อมก้าวสู่มาตรฐานเมืองระดับโลกเพียงใด
แบบสอบถามสำรวจความคิดเห็นต่อการจัดงาน : https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdqB_O_OGViti_JspL7C6QcTXi_9TaEZgCAjoqojfDBdN_t2w/viewform
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
https://www.prachachat.net/spinoff/sport/news-1927530
https://thestandard.co/f1-thailand-gp-2028-plan/
https://www.khaosod.co.th/sports/news_10035240
https://www.facebook.com/share/p/1ZTMXtYyQZ/
https://corp.formula1.com/formula-1-announces-seven-year-singapore-grand-prix-extension/
https://www.nbcnews.com/sports/formula-1/lando-norris-wins-f1-monaco-grand-prix-rcna208961
https://www.grandprix247.com/2023/11/10/2023-las-vegas-grand-prix-preview-revving-up-for-glory/
https://www.austadiums.com/stadiums/melbourne-gp-circuit
https://www.thairath.co.th/money/economics/thai_economics/2865722#
https://huddleup.substack.com/p/the-monaco-grand-prix-everything
https://www.p1travel.com/en/organizer/grand-prix-abu-dhabi







