top of page
Clip path group
Clip path group

สุขสันต์วันผังเมืองโลก (World Town Planning Day) 2025: ผังเมืองที่ดี สร้างเมืองน่าอยู่ได้จริงไหม?

พ.ย. 8

ใช้เวลาอ่าน 2 นาที

3

17

0

ree

8 พฤศจิกายน: วันผังเมืองโลก — เมื่อการออกแบบเมือง เริ่มจากการเข้าใจ “ชีวิต”

วันที่ 8 พฤศจิกายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันผังเมืองโลก” (World Town Planning Day) เพื่อย้ำเตือนถึงคุณค่าของการวางแผนและพัฒนาเมืองอย่างมีคุณภาพ วันสำคัญนี้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1949 จากแนวคิดของศาสตราจารย์ คาร์ลอส มารีอา เดลล่า เปาเลร่า (Carlos María della Paolera) แห่งมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ผู้เชื่อมั่นว่า “การวางผังเมืองที่ดี ต้องเริ่มจากความเข้าใจชีวิตผู้คนและสิ่งแวดล้อม” ไม่ใช่เพียงการออกแบบพื้นที่กายภาพของเมือง


แนวคิดนี้ยังคงสะท้อนความจริงอันเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งมาจนถึงปัจจุบัน — เพราะ หัวใจของการผังเมือง ไม่ได้อยู่ที่แผนผัง แต่คือการสร้างสมดุลระหว่างคน เมือง และธรรมชาติ เพื่อให้เมืองสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และการธำรงรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม


และเมื่อเอ่ยถึง “ผังเมืองที่ดี” คำถามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ — ผังเมืองที่ดีเพียงพอจะทำให้เมืองน่าอยู่ได้จริงหรือ? และแท้จริงแล้ว… “เมืองน่าอยู่” คือเมืองแบบไหนกันแน่?


คำถามนี้อาจไม่มีคำตอบตายตัว แต่การเริ่มตั้งคำถามเช่นนี้เอง คือจุดเริ่มต้นของการออกแบบอนาคตเมืองที่เข้าใจ “ชีวิต” อย่างแท้จริง

วันนี้ LAD จะชวนทุกท่านร่วมกันค้นหาคำตอบนั้นไปด้วยกัน

 

ree

“จริงไหม ที่เมืองแห่งโอกาส ต้องแลกมาด้วยความแออัดและคุณภาพชีวิตที่ถดถอย?”

เมื่อเอ่ยถึง “เมือง” เรามักนึกถึง “โอกาส” — พื้นที่ที่ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ามา เพื่อแสวงหาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ รายได้ และการงาน อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังโอกาสเหล่านั้น เมืองกลับต้องเผชิญกับราคาที่ต้องจ่าย นั้นคือ ความแออัดของที่อยู่อาศัย ระบบขนส่งสาธารณะที่แออัดยัดเยียด การจราจรที่ติดขัดไม่สิ้นสุด และความเหลื่อมล้ำที่กลายเป็นภาพคุ้นชินในชีวิตประจำวัน


เราจึงต้องย้อนถามตนเองว่า “จำเป็นจริงหรือ” ที่การเติบโตทางเศรษฐกิจต้องแลกมาด้วยคุณภาพชีวิตที่ลดลง?

 

ree
ree

โคเปนเฮเกน เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกปี 2025

ปี 2025 Economist Intelligence Unit (EIU) ได้ประกาศผลการจัดอันดับ Global Liveability Index 2025 โดยยกให้ โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เป็น เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ด้วยคะแนนรวมสูงถึง 98 เต็ม 100 เมืองแห่งนี้ได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน ในด้านความมั่นคง การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนคะแนนการสาธารณสุขอยู่ที่ 95.8 คะแนน และสิ่งแวดล้อมอยู่ที่ 95.4  คะแนน


พร้อมขึ้นแท่นเมืองต้นแบบของการออกแบบที่สมดุลระหว่าง เศรษฐกิจ–สิ่งแวดล้อม–คุณภาพชีวิต โคเปนเฮเกนไม่เพียงเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุด แต่ยังเป็นกรณีศึกษาของเมืองที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

  • เมืองนี้ตั้งเป้าหมายเป็น เมืองคาร์บอนเป็นศูนย์ (Carbon Neutral City) ภายในปี 2025

  • มี โครงการที่อยู่อาศัยแนวผสม (Mixed-use) ที่เน้นการเดินเท้าและจักรยาน โดยใช้แนวคิด “15-minute city” ทุกสิ่งอยู่ในระยะเดินถึงใน 15 นาที

  • ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในอาคารใหม่ทุกแห่ง

เมือง โคเปนเฮเกน ประเทศ เดนมาร์ก อันดับที่ 1 ของเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ปี 2025
เมือง โคเปนเฮเกน ประเทศ เดนมาร์ก อันดับที่ 1 ของเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ปี 2025

 

ตามมาด้วยอันดับอื่นๆ ของเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ปี 2025 ได้แก่

อันดับที่ 2 เวียนนา (ออสเตรีย) และ ซูริก (สวิตเซอร์แลนด์) – ครองอันดับ 2 ร่วม

อันดับที่ 4 เมลเบิร์น (ออสเตรเลีย) 

อันดับที่ 5 เจนีวา (สวิตเซอร์แลนด์) 


อีกหนึ่งดัชนีที่สะท้อนมิติใหม่ของเมืองยุคนี้คือ Global Work-Life Balance City Index ซึ่งจัดอันดับเมืองที่มี “สมดุลชีวิตและการทำงานดีที่สุดในโลก”

ผลปี 2025 ระบุว่า:

อันดับที่ 1 เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์) – เมืองแห่งสมดุลชีวิตที่ดีที่สุด

อันดับที่ 2 ออสโล (นอร์เวย์) – เมืองที่คนมีเวลาชีวิตมากที่สุด

อันดับที่ 3 โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก) – เมืองที่สมดุลเศรษฐกิจและชีวิตส่วนตัวอย่างลงตัว


ทั้งสามเมืองนี้มีสิ่งหนึ่งเหมือนกัน นั้นคือ การพัฒนาเศรษฐกิจไปพร้อมกับการออกแบบคุณภาพชีวิตแรงงานมีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ มีสวนสาธารณะในระยะเดินถึง มีพื้นที่สาธารณะสำหรับทุกวัย และมีระบบสวัสดิการที่มั่นคง นี่คือสิ่งที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกเริ่มตระหนักว่า “โอกาสทางเศรษฐกิจจะยั่งยืนได้ ก็ต่อเมื่อคุณภาพชีวิตของผู้คนเติบโตไปด้วยกัน”


เมืองเมลเบิร์น ประเทศ ออสเตรเลีย อันดับที่ 4 ของเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ปี 2025
เมืองเมลเบิร์น ประเทศ ออสเตรเลีย อันดับที่ 4 ของเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ปี 2025

ถอดบทเรียนสมดุลชีวิตและโอกาสทางเศรษฐกิจ: ไม่จำเป็นต้องสวนทาง

สิ่งที่น่าสนใจคือ เมืองที่ครองอันดับต้น ๆ ด้านความน่าอยู่ของโลกมักมีจุดร่วมสำคัญอยู่หลายประการ โดยเฉพาะนโยบายที่มุ่งสู่ความยั่งยืน การใช้พลังงานสะอาด และการวางผังเมืองที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้คนอย่างแท้จริง ตัวอย่างสำคัญสะท้อนผ่าน 3 ประเด็นหลักต่อไปนี้

  1. การวางผังเมืองที่ยึด “คนเป็นศูนย์กลาง” มากกว่า “รถยนต์” : เมืองน่าอยู่ไม่ได้วัดจากความเร็วของการเดินทาง แต่จากคุณภาพของการใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ เมืองที่ดีจะจัดสรรพื้นที่ให้คนเดินเท้าและจักรยานได้อย่างปลอดภัย ลดการพึ่งพารถยนต์ และสร้างบรรยากาศเมืองที่เอื้อต่อการพบปะและปฏิสัมพันธ์ของผู้คน สร้างให้เกิดความเป็นมิตรระหว่างคนและเมือง

  2. การสร้าง “ทางเลือกอย่างอิสระ” ให้กับผู้คน : เมืองเหล่านี้ไม่ได้มุ่งแค่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชิงกายภาพ แต่ยังออกแบบระบบสัญจรที่หลากหลาย ทั้งขนส่งสาธารณะ ทางเท้า และเส้นทางจักรยาน เพื่อให้ประชาชนเลือกวิถีชีวิตที่เหมาะกับตนเองได้อย่างอิสระ นี่คือหลักฐานว่า เมืองที่ดีไม่ควรบังคับให้ผู้คน “อยู่เพราะจำเป็น” แต่ควรทำให้พวกเขา “เลือกที่จะอยู่” ด้วยความสุขและศักดิ์ศรี

  3. การกระจายโอกาส และความเท่าเทียม : จะเห็นได้ว่า เมืองที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นเมืองหลวงเสมอไป หลายเมืองอย่าง โอซาก้า (ญี่ปุ่น) หรือ เมลเบิร์น (ออสเตรเลีย) ก็สามารถผสานการเติบโตทางเศรษฐกิจเข้ากับคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างลงตัว เป็นเครื่องยืนยันว่า “โอกาส” และ “ชีวิตที่ดี” สามารถดำเนินไปพร้อมกันได้อย่างสมดุล หากเมืองต่างๆ มีความพร้อมของระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ

 

เมืองโอซาก้า ประเทศ ญี่ปุ่น อันดับที่ 7 ของเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ปี 2025
เมืองโอซาก้า ประเทศ ญี่ปุ่น อันดับที่ 7 ของเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ปี 2025

ย้อนกลับมาที่เมืองไทยในมุมมองโลก: กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ขยับขึ้น

ข่าวดีคือ ปี 2025 ทั้ง กรุงเทพฯ และ เชียงใหม่ ของไทย ต่างได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้น จากการสำรวจของ EIU

  • กรุงเทพฯ อยู่อันดับที่ 116 จาก 173 เมืองทั่วโลก

  • เชียงใหม่ อยู่อันดับ 130 ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ เมืองไทยยังเป็นที่จับตามองในสายตานานาชาติจากหลายสื่อ:

  • นิตยสาร Travel + Leisure จัดให้ เชียงใหม่ เป็น เมืองที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของโลก และ อันดับ 1 ของเอเชีย

  • นิตยสาร Time Out จัดอันดับ กรุงเทพฯ เป็น เมืองที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของโลก สำหรับการท่องเที่ยวและการใช้ชีวิต

สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพด้าน วัฒนธรรม ความอบอุ่นของผู้คน และเสน่ห์เฉพาะตัวของเมือง นั้นเป็นจุดแข็งสำคัญที่สร้างมูลค่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีช่องว่างในด้านคุณภาพโครงสร้างพื้นฐาน หรือ ระบบขนส่ง

 

กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย อันดับที่ 116 ของเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ปี 2025
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย อันดับที่ 116 ของเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ปี 2025

เมืองน่าอยู่ = เมืองที่ลงทุนได้อย่างมั่นใจ

ในมุมมองของตลาดอสังหาริมทรัพย์ “ดัชนีความน่าอยู่” ไม่ได้เป็นเพียงข้อมูลสะท้อนคุณภาพชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็น “สัญญาณของศักยภาพทางเศรษฐกิจระยะยาว” เมืองที่มีคุณภาพชีวิตดี มักสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจและการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้

  1. โครงสร้างพื้นฐานแข็งแรง — มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืนระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ และการเข้าถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์หรือที่อยู่อาศัยที่สะดวก ช่วยยกระดับมูลค่าที่ดินและกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียนต่อเนื่อง

  2. สิ่งแวดล้อมคุณภาพสูง — แรงดึงดูดของทุนและคนคุณภาพ : เมืองที่มีพื้นที่สีเขียว ระบบการบริหารจัดการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่ดี รวมถึงการคำนึงถึงพลังงานสะอาดที่มีประสิทธิภาพ มักเป็นจุดหมายของทั้งนักลงทุนและแรงงานทักษะสูง เพราะสิ่งแวดล้อมที่ดีคือรากฐานของชีวิตและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

  3. ระบบสุขภาพและการศึกษาที่เข้มแข็ง — พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานมนุษย์ : เมืองที่มีบริการสาธารณสุขและระบบการศึกษาคุณภาพสูง จะดึงดูดครอบครัวและแรงงานทักษะสูงให้เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ส่งผลต่อการพัฒนา “ทุนมนุษย์” (Human Capital) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการเติบโตในระยะยาว

  4. เสถียรภาพทางการเมืองและนโยบายเมืองที่ชัดเจน — ลดความเสี่ยง เพิ่มความมั่นใจ : เมืองที่มีการบริหารจัดการโปร่งใส และแผนพัฒนาเมืองที่ชัดเจน จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ลดความไม่แน่นอนของตลาด และส่งเสริมให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมั่นคง


“เมืองที่น่าอยู่” จึงไม่เพียงหมายถึงเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีเท่านั้น แต่ยังเป็น “เมืองที่ลงทุนได้อย่างมั่นใจ” เพราะความอยู่ดีมีสุขของผู้คนและเสถียรภาพของระบบเมืองคือรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจที่เติบโตได้อย่างยั่งยืน


ree

อนาคตเมืองไทย สร้างด้วย "ผังเมือง"

ในโอกาสวันผังเมืองโลกปี 2025 นี้ ข้อคิดสำคัญที่เราควรตระหนักคือ “ผังเมืองที่ดี” คือเครื่องมือสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่าง สังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ เพราะ “เมืองแห่งโอกาส” ไม่จำเป็นต้องแลกด้วย “คุณภาพชีวิตที่ลดลง”หากเรามี ผังเมืองที่เข้าใจชีวิต และ การลงทุนที่เข้าใจเมือง

 

เมืองที่ดี... ต้องไม่บังคับให้คนต้องเลือก

ในโลกที่หลายเมืองยังต้องเลือกระหว่าง “ความมั่งคั่ง” หรือ “คุณภาพชีวิต” เมืองที่ประสบความสำเร็จอย่าง โคเปนเฮเกน เวียนนา หรือ เฮลซิงกิ กำลังพิสูจน์ว่า เมืองสามารถเป็นได้ทั้ง “ศูนย์กลางเศรษฐกิจ” และ “พื้นที่แห่งความสุข” ไปพร้อมกัน


ในประเทศไทยเอง ทั้ง กรุงเทพฯ และ เชียงใหม่ กำลังเดินหน้าในทิศทางเดียวกัน หากทุกภาคส่วนร่วมมือกัน และมองผังเมืองไม่ใช่เพียง “ข้อบังคับทางกฎหมาย” แต่คือ “แผนผังนำทางชีวิตของผู้คน” เมืองไทยก็สามารถก้าวสู่การเป็นหนึ่งใน “เมืองน่าอยู่ของโลก” ได้ในอนาคตอันใกล้

 

แล้วคุณล่ะ

คิดว่า “ผังเมืองที่ดี” ควรเป็นแบบไหน?

คือผังที่ให้คนใช้ชีวิตได้ดีขึ้น? หรือผังที่ทำให้เมืองเติบโตโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง?

คำตอบอาจไม่มีเพียงหนึ่งเดียว —แต่สิ่งที่แน่นอนคือ “เราทุกคน” ล้วนมีส่วนร่วมในการออกแบบมัน


สุขสันต์วันผังเมืองโลก จาก LAD


ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน), กรมโยธาธิการและผังเมือง

World Bank (2018). The Human Capital Project.

UN-Habitat (2022). World Cities Report 2022: Envisaging the Future of Cities.

OECD (2020). Cities in the World: A New Perspective on Urbanisation. OECD Publishing.

United Nations (2016). New Urban Agenda.

Transparency International (2021). Corruption Perceptions Index.

https://www.economistgroup.com/press-centre/economist-intelligence/eiu-global-liveability-index-2025-copenhagen-replaces-vienna-as-worlds-most

https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/thaitravel/2794076

https://pantip.com/topic/35613135

https://theopener.co.th/2025/06/18/โคเปนเฮเกนเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกปี2025

https://www-archdaily-com.translate.goog/146702/architecture-city-guide-copenhagen?_x_tr_sl=en&_x_tr_tl=th&_x_tr_hl=th&_x_tr_pto=imgs

https://www.visualcapitalist.com/cities-with-the-best-work-life-balance/

https://www.ggnltd.com/grand-green-osaka-umekita-park

https://www.sbs.com.au/news/article/melbourne-retains-top-10-spot-in-most-liveable-cities-index/or55s2yii

https://www.timeout.com/melbourne/news/melbourne-has-fallen-in-the-official-ranking-of-the-worlds-most-liveable-cities-for-2024-070124

https://www.thailandnow.in.th/life-society/discovering-the-creative-heart-of-bangkok-a-look-into-the-city-of-design/ 

https://www.i-am-maker.com/articles/แบบจำลอง-3-มิติ-กทม/

พ.ย. 8

ใช้เวลาอ่าน 2 นาที

3

17

0

โพสต์ที่คล้ายกัน

ความคิดเห็น

แชร์ความคิดเห็นของคุณเชิญแสดงความคิดเห็น คุณคือคนแรกที่แสดงความคิดเห็นที่นี่
bottom of page