
เปิดแผนพัฒนาท่าเรือคลองเตย 520 ไร่ : ยกระดับสู่ Green Port และเขตเศรษฐกิจใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ
พ.ค. 27
ใช้เวลาอ่าน 1 นาที
1
32
0

เมกะโปรเจกต์ “แผนพัฒนาท่าเรือคลองเตย” กำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะแนวคิดการพัฒนา Entertainment Complex ซึ่งแม้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาและรอความชัดเจนด้านกฎหมาย แต่ก็สะท้อนภาพการปักหมุดเศรษฐกิจใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ
.
ทั้งนี้ Entertainment Complex ไม่ได้หมายถึงเพียง “คาสิโน” (คาดว่าจะใช้พื้นที่ไม่เกิน 10% ของโครงการ) แต่รวมถึง โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ศูนย์ประชุม สนามกีฬา และโรงละคร เพื่อยกระดับคลองเตยให้เป็น “แลนด์มาร์กด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวแห่งใหม่” ดึงดูดทั้งนักท่องเที ่ยวและนักลงทุนจากนานาชาติ และสร้างแรงขับเคลื่อนต่อทิศทางการขยายตัวของเมือง
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 กระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) มีมติให้ศึกษาแผนพัฒนาพื้นที่นำร่อง 520 ไร่ ซึ่งปัจจุบันเป็นกรรมสิทธิ์ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ที่ไม่มีพันธะผูกพันกับภาคเอกชนใด เพื่อวางรากฐาน Green Port หรือท่าเรือสีเขียวที่ใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติและบริหารจัดการอย่างยั่งยืน โดยโครงการนี้จะดำเนินภายใต้รูปแบบการลงทุนร่วมรัฐ-เอกชน (PPP) มูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท โดยใช้แผนแม่บทพัฒนาของ กทท. ปี 2562 เป็นกรอบแนวทาง

3 เสาหลักพัฒนาคลองเตย
Smart & Green Port — ท่าเรืออัจฉริยะที่เน้นการใช้ระบบอัตโนมัติ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและบริหารจัดการอย่างยั่งยืน
Smart Commercial — ศูนย์กลางธุรกิจ Logistic park และ Cruise Terminal รองรับการท่องเที่ยวทางน้ำและเศรษฐกิจบริการ
Smart Community — ชุมชนคุณภาพ พร้อมโครงสร้างพื้นฐาน ที่อยู่อาศัย และระบบสาธารณูปโภคทันสมัย โดยเน้นการพัฒนาร่วมกับชุมชนเดิม
โครงการสำคัญภายใต้แผน Mixed-use
Entertainment Complex (อยู่ระหว่างรอความชัดเจนด้านกฎหมาย)
ครอบคลุมโรงแรม ห้างสรรพสินค้า คาสิโน ศูนย์ประชุม ฯลฯ
Bangkok Logistics Park
ช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ราว 1,410 ล้านบาทต่อปี
Bangkok Port Passenger Cruise Terminal (พื้นที่ 67.41 ไร่)
ศูนย์กลางการขนส่งและท่องเที่ยวทางน้ำ
โครงข่ายทางด่วน S1 (บางนา–อาจณรงค์)
ช่วยเชื่อมต่อท่าเรือ ลดการจราจร รองรับการพัฒนา Smart City

เมืองใหม่ริมเจ้าพระยา กับบทเรียนจากเมืองโลก
แผนนี้เน้น Mixed-use Development ผสานกิจกรรมหลากหลายบนพื้นที่เดียวกัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด Transit-Oriented Development (TOD) และ Waterfront Urban Regeneration ที่ประสบความสำเร็จในเมืองท่าอย่างโยโกฮามา (Minato Mirai 21) และสิงคโปร์ (Marina Bay)
หากออกแบบอย่างมียุทธศาสตร์ โครงการคลองเตยอาจสร้างผลลัพธ์เชิงพื้นที่ที่สำคัญ ได้แก่
เพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์และขนส่ง
สร้างแหล่งงานใหม่ในภาคบริการ การท่องเที่ยว และดิจิทัล
เพิ่มมูลค่าที่ดินและกระตุ้นเศรษฐกิจย่านพระราม 4–คลองเตย
ลดแรงกดดันศูนย์กลางเมืองชั้นใน สร้างการขยายตัวเมือง จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมือง
บททดสอบสำคัญ: การออกแบบเมืองที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
แม้เมกะโปรเจคดังกล่าวจะสร้างโอกาสมหาศาล แต่ก็แฝงความเสี่ยงด้าน Gentrification และความเหลื่อมล้ำ คลองเตยมีชุมชนดั้งเดิมกว่า 15,000 ครัวเรือน (26 ชุมชน) แม้แผนระยะแรกยืนยันว่าจะไม่มีการเร่งย้ายชุมชน และจะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง แต่ในอนาคต การเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินและค่าครองชีพอาจผลักดันการย้ายถิ่นฐานโดยปริยาย

คลองเตย: จุดเปลี่ยนระหว่าง “ศูนย์เศรษฐกิจใหม่” หรือ “บทเรียนซ้ำรอย”?
โครงการนี้คือโอกาสทองของกรุงเทพฯ ในการกระจายเศรษฐกิจและพลิกโฉมเมือง แต่ก็อาจกลายเป็น บทเรียนราคาแพง หากละเลยการพิจารณาอย่างรอบด้าน
คำถามสำคัญที่สังคมต้องจับตา:
"ใครคือผู้ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้อย่างแท้จริง?
เศรษฐกิจชาติ นักลงทุน หรือคนในเมือง?"
และประเทศไทยพร้อมแล้วหรือยัง—ทั้งระบบ สังคม และโครงสร้าง—กับกิจกรรมใหม่ๆ ที่แม้จะสร้างเม็ดเงินมหาศาล แต่ก็แฝงมาด้วยความเสี่ยงในหลายมิติ
#SmartPort #LogisticsHub #EntertainmentComplex #Klongtoey #Bangkok2030 #พัฒนาคลองเตย #เขตเศรษฐกิจพิเศษ #ลงทุนไทย #ThailandInvestment #UrbanTransformation
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
https://www.thansettakij.com/economy/megaproject/626807
https://www.thairath.co.th/.../eco.../thai_economics/2839633
https://www.facebook.com/share/p/1DsMwgk56v/
https://www.facebook.com/share/p/15KYTRER9S/
https://www.facebook.com/share/p/16Shfrr8cs/







