top of page
Clip path group
Clip path group

วิกฤติหลุมยุบถนนสามเสน : สัญญาณความเปราะบางของกรุงเทพฯ และบทบาทเทคโนโลยีป้องกันความเสี่ยง

ก.ย. 27

ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

0

9

0


เช้าวันที่ 24 กันยายน 2568 เกิดเหตุการณ์ ถนนสามเสนทรุดยุบครั้งใหญ่ บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลและสถานีตำรวจนครบาลสามเสน หลุมยุบมีขนาดประมาณ 30 x 30 เมตร ลึกกว่า 50 เมตร ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย นักศึกษา และชุมชนโดยรอบต่างตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก เหตุการณ์นี้ไม่เพียงสะท้อนถึงภัยพิบัติระยะสั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึง ความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานกรุงเทพฯ พร้อมทั้งกระตุ้นคำถามสำคัญต่อ ความปลอดภัยของระบบวิศวกรรมและการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วงใต้ ที่กำลังดำเนินงานอยู่



ผลกระทบต่อย่าน และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่าเหตุผิวจราจรทรุดตัวเกิดขึ้นบริเวณ ไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงสถานีโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างอุโมงค์รถไฟฟ้าและสถานี ส่งผลให้เกิดการยุบตัวของดิน ท่อประปาขนาดใหญ่แตกรั่ว ดินไหลเข้าสู่พื้นที่ก่อสร้าง พร้อมทั้งมีน้ำรั่วไหลเข้าสถานี เมื่อเพดานสถานีเสียหาย ดินชั้นบนจึงทรุดตัวลง ส่งผลให้ถนนและอาคารใกล้เคียงเสียหาย โดยเฉพาะบริเวณอาคารผู้ป่วยนอกทีปังกรรัศมีโชติของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล


สถานีวชิรพยาบาลเป็นสถานีแบบ Stacked Platform อยู่ในแนวก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน–ราษฎร์บูรณะ ระยะทางรวมกว่า 23.63 กิโลเมตร (โครงสร้างใต้ดิน 14.29 กม. และยกระดับ 9.34 กม.) มีทั้งหมด 17 สถานี เส้นทางเชื่อมโยงย่านสำคัญอย่างรัฐสภาแห่งใหม่ สนามหลวง เกาะรัตนโกสินทร์ และลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาไปจนถึงย่านสุขสวัสดิ์ ถือเป็น “โครงการความหวังใหม่” ของระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างข้อกังวลด้าน ความปลอดภัยและผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานของเมืองในระยะยาว


 

มุมมองนักวิชาการ: หลุมยุบสะท้อนความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานของเมือง?

ดร.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้อธิบายถึงกรณีการเกิดหลุมยุบขนาดใหญ่บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลว่า สาเหตุส่วนใหญ่ของหลุมยุบมีความเชื่อมโยงกับปัจจัยด้านน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำฝน น้ำใต้ดิน หรือการรั่วซึมจากระบบสาธารณูปโภค ซึ่งปัญหานี้อาจสะท้อนถึงความเปราะบางของการจัดการโครงสร้างพื้นฐานในเขตเมือง?

โดยสรุปความเป็นไปได้ของสาเหตุ 2 ประการ


1. กระบวนการทางธรรมชาติหลุมยุบส่วนใหญ่มีที่มาจากกระบวนการทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชั้นหินใต้ดินเป็นหินที่สามารถละลายน้ำได้ เช่น หินปูน หินคาร์บอเนต หินเกลือ หรือยิปซัม น้ำใต้ดินที่ไหลซึมผ่านรอยแตกของหินจะค่อยๆ ละลายและชะล้างเนื้อหินออกไป เมื่อฝนตก น้ำฝนที่ผสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กลายเป็นกรดคาร์บอนิกอ่อนๆ ซึ่งสามารถกัดกร่อนหินอัลคาไลน์ได้ นอกจากนี้ หินทรายและหินควอตซ์ยังอาจถูกทำลายจากการละลายของซีเมนต์คาร์บอเนตที่เชื่อมเม็ดดินไว้ ทำให้อนุภาคที่เหลือหลวมตัวและถูกชะล้างออกไป กระบวนการเหล่านี้นำไปสู่การเกิดโพรงใต้ดิน และท้ายที่สุดเกิดการยุบตัวบนพื้นผิว


2.  ปัจจัยจากกิจกรรมของมนุษย์นอกจากธรรมชาติแล้ว การกระทำของมนุษย์ก็เป็นตัวเร่งสำคัญ เช่น การทำเหมืองที่ทำให้ระดับน้ำใต้ดินเปลี่ยนแปลง การสูบน้ำบาดาลจำนวนมาก หรือแม้แต่การแตกของท่อประปาและท่อน้ำที่รั่วซึม ล้วนทำให้ดินใต้ผิวอ่อนตัว กัดเซาะ และเกิดหลุมยุบได้เช่นกัน

 

กลไกการพังทลายของชั้นผิวดิน

หลุมยุบเกิดขึ้นเมื่อชั้นดินด้านบนสูญเสียการรองรับจากด้านล่าง แม้ดินที่อัดตัวแน่นหรือมีซีเมนต์ประสานอาจก่อตัวเป็นสะพานปิดทับโพรง ทำให้มองไม่เห็นช่องว่าง แต่หากมีปัจจัยกระตุ้น เช่น ฝนตกหนัก การเปลี่ยนทิศทางการไหลของน้ำผิวดิน หรือแรงดันรูพรุนในดินเพิ่มสูงขึ้น ชั้นดินด้านบนก็จะอิ่มน้ำ สูญเสียความแข็งแรง และพังทลายลงไปในโพรงทันที

โดยสรุปแล้ว กระบวนการหลักที่ทำให้เกิดหลุมยุบมี 3 รูปแบบ คือ

  • การละลาย (Dissolution) หินถูกชะลายออกไปจากการทำปฏิกิริยากับน้ำ

  • การยุบตัว (Collapse) ดินชั้นบนทรุดลงเมื่อสูญเสียการรองรับ

  • การกัดเซาะ (Erosion) ดินหรือวัสดุหลวมใต้ผิวถูกน้ำชะล้างออกไป

ภาพตัวอย่างการวางแผนเชิงกลยุทธ์ด้านวิศวกรรมและการก่อสร้าง
ภาพตัวอย่างการวางแผนเชิงกลยุทธ์ด้านวิศวกรรมและการก่อสร้าง

เทคโนโลยีการวางผังเมืองเชิงป้องกันความเสี่ยง

เหตุการณ์นี้จึงอาจสะท้อนถึงความสำคัญของ ข้อมูลคุณภาพใต้ดิน (Subsurface Data) สำหรับการประเมินความเสี่ยงในเมือง หากมีการจัดทำแผนที่ เช่น สภาพชั้นดิน ความสามารถในการรับน้ำหนัก ระดับน้ำใต้ดิน และแนวท่อสาธารณูปโภค จะช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถวางแผนและประเมินความเสี่ยงได้แม่นยำยิ่งขึ้น ปัจจุบันเทคโนโลยีอย่าง เรดาร์หยั่งพื้นดิน (Ground Penetrating Radar: GPR), ระบบระบุตำแหน่งด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Location: EML) และ แบบจำลองสารสนเทศอาคาร (Building Information Modelling: BIM) ถูกนำมาใช้ในการระบุตำแหน่งเครือข่ายสาธารณูปโภคใต้ดินและสิ่งก่อสร้างที่ซ่อนอยู่ เพื่อลดความเสี่ยงทางวิศวกรรมและสร้างแผนที่สามมิติสำหรับการก่อสร้างทั้งบนพื้นดินและใต้ดิน ขณะเดียวกัน การจำลองภาพสามมิติ (3D Visualization) และการจำลองสถานการณ์ (Simulation) ยังช่วยทดสอบความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ เช่น หลุมยุบหรือภัยแฝงอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนา การวางผังเมืองเชิงรับความเสี่ยง (Risk-Informed Urban Planning) ที่ช่วยป้องกันความเสียหายได้ก่อนเกิดขึ้นจริง

 

ภาพตัวอย่างเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลระบบใต้ดิน
ภาพตัวอย่างเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลระบบใต้ดิน

5 สัญญาณเตือนภัยที่ควรเฝ้าระวัง “ก่อนเกิดหลุมยุบ”

ก่อนเกิดเหตุหลุมยุบ มักมีสัญญาณเตือนที่สามารถสังเกตได้ หากผู้เกี่ยวข้องและชุมชนใส่ใจ จะช่วยลดความเสี่ยงและเตรียมมาตรการป้องกันได้ทันเวลา ได้แก่

  • พื้นดินยุบตัวอย่างช้าๆ

  • การเกิดแอ่งน้ำใหม่หรือดินเคลื่อนผิดปกติ

  • ความเสียหายของท่อสาธารณูปโภคใต้ดิน

  • เสาไฟฟ้า ต้นไม้ หรือสิ่งปลูกสร้างเอียงผิดรูป

  • อาคารหรือพื้นคอนกรีตแตกร้าว หน้าต่าง–ประตูปิดไม่สนิท

 

บทเรียนด้านการวางโครงสร้างพื้นฐานของเมือง

เหตุการณ์ครั้งนี้แม้ยังไม่อาจสรุปได้โดยตรงว่าเกิดจากปัญหาโครงสร้างพื้นฐานของเมือง แต่ก็ทำให้เราฉุกคิดว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับเมืองนั้น ไม่สามารถละเลยผลกระทบในมิติใดๆได้เลย หากแต่ควรบูรณาการข้อมูลการวิเคราะห์ผลกระทบและความเสี่ยงอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะโครงสร้างที่ซับซ้อนใต้พื้นดิน อาทิ ด้านธรณีวิทยา ระบบน้ำใต้ดิน และเครือข่ายสาธารณูปโภค อย่างเป็นระบบ


เทคโนโลยีจึงอาจกลายเป็นทางเลือกสำคัญในการอุดรอยรั่วของการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจใต้ดิน (subsurface mapping) หรือ การจำลองสถานการณ์ 3D (3D simulation) ซึ่งช่วยให้สามารถคาดการณ์เหตุการณ์เสี่ยงล่วงหน้า และวางมาตรการป้องกันเชิงกลยุทธ์ ก่อนเกิดความเสียหายจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ



ตัวอย่างการสร้างระบบรถไฟใต้ดินบอสตันก็เผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งการขุดเจาะและการจัดการกับสาธารณูปโภคที่ฝังอยู่ใต้ดิน และโครงสร้างพื้นฐานใต้ดินที่เสื่อมสภาพ
ตัวอย่างการสร้างระบบรถไฟใต้ดินบอสตันก็เผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งการขุดเจาะและการจัดการกับสาธารณูปโภคที่ฝังอยู่ใต้ดิน และโครงสร้างพื้นฐานใต้ดินที่เสื่อมสภาพ

 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :

https://www.bbc.com/thai/articles/cjr5jny3q12o

https://www.thaipost.net/general-news/866972/

https://www.amarintv.com/news/quality-of-life/525950

https://pantip.com/topic/43753222

https://geospatialworld.net/article/technologies-to-map-subsurface-infrastructure/

https://www.bangkokbiznews.com/news/news-update/1200206

https://static.amarintv.com/media/PJVlR0ljpOBVBPAbtl7lYMulT3r9O2ukE9ivFu0lbFxzuN34uY9yHFMvHpzwbgSuRX.jpg

https://www.mdpi.com/2076-3417/12/24/13017

https://www.researchgate.net/figure/Block-diagram-shows-surface-imagery-and-subsurface-Basement-Top-Depth-map_fig4_266203021

https://www.facebook.com/photo/?fbid=957462888009724&set=a.167132740376080




 

ก.ย. 27

ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

0

9

0

โพสต์ที่คล้ายกัน

ความคิดเห็น

แชร์ความคิดเห็นของคุณเชิญแสดงความคิดเห็น คุณคือคนแรกที่แสดงความคิดเห็นที่นี่
bottom of page