
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา: วิเคราะห์ 5 พื้นที่เป้าหมายการโจมตีจากฝั่งกัมพูชา
ก.ค. 25
1 min read
0
1
0

เช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 สถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาเมือนธม ยังคงตึงเครียดและเกิดการปะทะทางทหารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยของพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนของจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และบุรีรัมย์
จากการรายงานของเพจ “กองทัพบกทันกระแส” พบว่า พื้นที่เป้าหมายที่ถูกโจมตีประกอบด้วย:
• ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
• ปราสาทโดนตวล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
• ปั๊มน้ำมันบ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
• โรงพยาบาลพนมดงรัก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
• ศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์
• บ้านเรือนของประชาชน

เมื่อพิจารณาเชิงพื้นที่ พบว่า พื้นที่เป้าหมายการโจมตีที่กัมพูชาเลือกนั้น กลับไม่ใช่เป้าหมายทางทหารโดยตรง เช่น ฐานทัพทหาร แต่กลับมุ่งเป้าไปที่พื้นที่สำคัญทางวัฒนธรรมและศูนย์กลางของชุมชน เช่น โบราณสถาน โรงพยาบาล และศูนย์พัฒนาพื้นที่ ซึ่ง เป็นพื้นที่ที่มีประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยจำนวนมาก ทำให้ผลกระทบที่เกิดขึ้นรุนแรงโดยเฉพาะต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
ท่ามกลางสถานการณ์อันตรายนี้ นอกเหนือจากยุทธการทางการทหารแล้ว อีกหนึ่งประเด็นสำคัญ คือมาตรการการวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อป้องกัน ฟื้นฟู และเยียวยาทั้งในเชิงพื้นที่และด้านจิตใจ จะได้รับการผลักดันอย่างจริงจัง อาทิ
การจัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัย
ในบริบทของเมืองชายแดนที่มีความเสี่ยงด้านความมั่นคง การจัดการ พื้นที่ปลอดภัย ควรเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนเชิงรุก (Proactive Planning) ที่บูรณาการเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานของเมือง การออกแบบควรคำนึงถึงการเข้าถึงที่สะดวก ความครอบคลุมระดับครัวเรือนและชุมชน ตลอดจนระบบสื่อสารและโลจิสติกส์ที่สามารถตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงทีในทุกระดับทั้งในระดับชุมชนและระดับเมือง
การสื่อสารและการวางแผนระบบอพยพที่เป็นระบบ
การสื่อสารควรมีความแม่นยำ รวดเร็ว และเข้าถึงกลุ่มเปราะบางอย่างทั่วถึง ควบคู่กับการวางแผนระบบอพยพที่สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานเดิมของเมือง เช่น ระบบคมนาคม โรงพยาบาล และหน่วยงานราชการ ซึ่งจำเป็นต้องมีแผนปฏิ บัติการรับมือภัยพิบัติ และมีการฝึกซ้อม เพื่อเสริมสร้างความพร้อมของทุกภาคส่วน
การเยียวยาและฟื้นฟูในระยะยาว
สถานการณ์ความไม่มั่นคงย่อมส่งผลกระทบในระดับโครงสร้างทั้งต่อจิตใจ คุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่พึ่งพาการค้าชายแดนเป็นรายได้หลักของชุมชน ดังนั้น ในระยะต่อไป จึงควรมีมาตรการฟื้นฟูที่ไม่เพียงมุ่งเน้นด้านกายภาพเท่านั้น แต่ยังต้องครอบคลุมถึงการเยียวยาทางจิตใจ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ การส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น และการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของการท่องเที่ยวและเดินทาง ผ่านกระบวนการพัฒนาเมืองในระยะยาว
LAD ขอร่วมส่งกำลังใจไปยังเหล่าทหารไทย และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย ขอให้ทุกท่านปลอดภัย และสถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ:
https://thestandard.co/thailand-cambodia-conflict-2025/
https://www.thaipost.net/hi-light/829681/
https://thai.tourismthailand.org/Attraction/ปราสาทโดนตวล
https://www.thaitv5hd.com/web/content.php?id=53122
https://loklakwithee.com/?p=1966
https://travel.trueid.net/detail/6LMJJDbmXyag
https://www.bangkokbiznews.com/news/news-update/1191022
https://www.bbc.com/thai/articles/cwyey5eqzgqo
#กัมพูชายิงก่อน
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
#กองทัพบกทันกระแส