กรุงเทพฯ ขึ้นแท่น “เมืองระดับโลก” อันดับ 33 ของโลก — โอกาสทองการลงทุนอสังหาริมทรัพย์กำลังเริ่มต้น

5 วันที่แล้ว

2 min read

กรุงเทพมหานครเดินหน้าก้าวสู่เวทีโลกอย่างมั่นคง ล่าสุดในปี 2025 เมืองหลวงของไทยขยับขึ้นมาอยู่ที่ อันดับที่ 33 ของโลก ในรายงาน Global Cities Index (GCI) โดยสถาบันที่ปรึกษาชื่อดังระดับโลก Kearney ซึ่งจัดอันดับเมืองที่มีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมมากที่สุดในโลก

การขยับขึ้นจากอันดับที่ 34 ในปีที่ผ่านมา แม้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกอย่างยิ่งว่า “กรุงเทพฯ” กำลังกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

กรุงเทพฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน

รายงาน Global Cities Index 2025 ประเมินเมืองทั่วโลกจาก 5 มิติหลัก ได้แก่

กิจกรรมทางธุรกิจ (Business Activity)
ทรัพยากรมนุษย์ (Human Capital)
การแลกเปลี่ยนข้อมูล (Information Exchange)
ประสบการณ์ทางวัฒนธรรม (Cultural Experience)
การมีส่วนร่วมทางการเมือง (Political Engagement)

ในปีนี้ กรุงเทพฯ มีความโดดเด่นเป็นพิเศษในมิติ “กิจกรรมทางธุรกิจ” โดยมีอันดับที่ดีขึ้นถึง 7 ลำดับ จากปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในด้านการจัดประชุมนานาชาติ (MICE) และตลาดทุน ที่เติบโตต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนระดับภูมิภาค

ผลลัพธ์ดังกล่าวตอกย้ำว่า กรุงเทพฯ กำลังเปลี่ยนบทบาทจาก “เมืองท่องเที่ยว” ไปสู่ “ศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของเอเชีย” ที่ไม่เพียงตอบโจทย์การค้าและธุรกิจ แต่ยังสร้างแรงดึงดูดมหาศาลต่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ อาทิ อาคารสำนักงาน ศูนย์ประชุม และโครงการพัฒนาแบบผสมผสาน (Mixed-use Projects) ขนาดใหญ่

การแถลงทิศทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ปี 2568 เพื่อเสริมสร้างศักยภาพเศรษฐกิจพิชิตอันดับไมซ์แห่งเอเชีย

เมืองแห่งข้อมูลและเทคโนโลยี: รากฐานสู่ Smart City

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้กรุงเทพฯ ขึ้นอันดับอย่างต่อเนื่อง คือ ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและข้อมูล (Data Infrastructure)

กรุงเทพฯ มีการพัฒนาอย่างโดดเด่น โดยอันดับของ ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ขยับจากลำดับที่ 78 สู่ อันดับ 55 ของโลกภายในเวลาเพียงปีเดียว สะท้อนถึงการเติบโตของภาคธุรกิจดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ และบริการออนไลน์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

แม้ความเร็วอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยจะลดลงเล็กน้อย แต่กรุงเทพฯ ยังคงติด อันดับที่ 22 ของโลก ซึ่งถือว่าโดดเด่นเมื่อเทียบกับเมืองอื่นในภูมิภาคเดียวกัน

ทั้งหมดนี้คือสัญญาณชัดเจนว่า กรุงเทพฯ กำลังมุ่งหน้าเป็น Smart City ที่พร้อมรองรับธุรกิจเทคโนโลยี สตาร์ทอัพ และสำนักงานนานาชาติ อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ตลาด คอนโดมิเนียมแนวสูงในเขตศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) กลับมาคึกคักอีกครั้ง

พลังขับเคลื่อนใหม่ของกรุงเทพฯ บนเวทีโลก

ตามมุมมองของ Kearney Thailand “กรุงเทพฯ มีองค์ประกอบครบถ้วนในการก้าวสู่เมืองระดับโลกในทศวรรษหน้า” ทั้งในด้าน

ทรัพยากรมนุษย์คุณภาพสูง
โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย
นโยบายส่งเสริมนวัตกรรมทางเศรษฐกิจและกฎหมาย

แม้กรุงเทพฯ จะยังอยู่อันดับที่ 97 ในมิติประชากรต่างชาติ ซึ่งตามหลังจาการ์ตาและสิงคโปร์ แต่ช่องว่างนี้กลับเปิดโอกาสมหาศาลในการดึงดูดนักลงทุนและแรงงานคุณภาพเข้าสู่เมือง — อันจะช่วยกระตุ้นความต้องการ ที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียมและ โครงการพัฒนาแบบผสมผสาน (Mixed-use Projects) ให้เติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังพบการเติบโตของตลาดอาคารสำนักงานสีเขียว (Green Building) การผลักดันด้านความยั่งยืนและพลังงานสะอาดกำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชน อาคารสำนักงานที่ได้มาตรฐาน LEED หรือ WELL จะได้รับความสนใจมากขึ้นในช่วง 5 ปีข้างหน้า

ส่อง 7 แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์: กรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางใหม่ของการใช้ชีวิตและลงทุน

เมื่อเมืองขยายตัวสู่ความเป็น “มหานครระดับโลก” ความต้องการที่อยู่อาศัยแนวสูงในเขตศูนย์กลาง

การเลือกทำเลทองในกรุงเทพฯ คือหัวใจของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า ทั้งในด้านสำนักงานให้เช่า โครงการพัฒนาแบบผสมผสานและที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียม มาดู 7 ย่านศักยภาพที่น่าจับตาที่สุดในปีนี้

สีลม–สาทร : ศูนย์กลางการเงินของประเทศ เต็มไปด้วยสำนักงานใหญ่และสถาบันการเงิน การเดินทางสะดวกด้วย BTS–MRT เหมาะกับการลงทุนสร้างอาคารสำนักงานและโครงการเชิงพาณิชย์ที่เน้นภาพลักษณ์น่าเชื่อถือ
อโศก–เพชรบุรี : ทำเลเชื่อมต่อใจกลางเมือง จุดตัด BTS และ MRT รายล้อมด้วยออฟฟิศสมัยใหม่ เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัวและการเข้าถึงลูกค้าได้สะดวก
ชิดลม–เพลินจิต : ย่านหรูหราที่รวมสถานทูต โรงแรมระดับ 5 ดาว และอาคารเกรดเอ เหมาะกับการลงทุนโครงการพรีเมียมที่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับบนและบริษัทข้ามชาติ
พระราม 9–รัชดาภิเษก (New CBD) : ศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยโครงการมิกซ์ยูสและออฟฟิศโมเดิร์น ดึงดูดธุรกิจเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ เหมาะกับการลงทุนเพื่ออนาคต
สุขุมวิท : เส้นทางเศรษฐกิจหลักของกรุงเทพฯ รายล้อมด้วยคอนโดหรู ชุมชนชาวต่างชาติ และแหล่งค้าปลีก เหมาะสำหรับโครงการแนวสูงและอาคารสำนักงานใจกลางเมือง
อารีย์–พหลโยธิน : ย่านครีเอทีฟและคนรุ่นใหม่ รวมสำนักงานดีไซน์ คาเฟ่ และพื้นที่ทำงานร่วมกัน (Co-working Space) เป็นทำเลที่ตอบโจทย์ธุรกิจสตาร์ทอัพและเอเจนซี่ยุคใหม่
บางนา : ประตูสู่เขต EEC รายล้อมด้วยโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เหมาะกับการพัฒนาอาคารสำนักงาน โลจิสติกส์ และที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม

ทำเลศักยภาพอื่นๆ ที่น่าจับตา

ลาดพร้าว–ห้าแยกลาดพร้าว: จุดตัดรถไฟฟ้าหลายสาย ศูนย์กลางการเดินทางฝั่งเหนือ เหมาะกับการลงทุนที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์
สามย่าน–บรรทัดทอง: ย่านการศึกษาและไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เหมาะกับโครงการเพื่อเช่าหรือค้าปลีก
วงเวียนใหญ่–ฝั่งธนบุรี: ทำเลศักยภาพใหม่จากรถไฟฟ้าสายสีทองและสีม่วงตอนใต้ ราคาที่ดินยังมีแนวโน้มเติบโตสูง

กรุงเทพฯ ในยุคแห่งความชาญฉลาด — ศูนย์กลางลงทุนแห่งอนาคต

แม้ในรายงาน Global Cities Outlook 2025 กรุงเทพฯ ยังคงอยู่อันดับที่ 105 เช่นเดิม แต่สิ่งนี้ไม่ได้สะท้อนข้อจำกัด หากแต่คือ “โอกาสแห่งการพัฒนา” รายงานของ Kearney ปี 2025 ชี้ชัดว่า “ความสามารถในการแข่งขันของเมืองในระยะยาว” จะขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

การพัฒนาพลังงานและความยั่งยืน
ความน่าอยู่และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง
ศักยภาพบุคลากรที่รองรับเทคโนโลยี AI และดิจิทัล

เมื่อทั้งสามมิติถูกผสานเข้าด้วยกัน กรุงเทพฯ จะก้าวสู่ยุคใหม่ของการเป็น “Smart Global City” อย่างแท้จริง สำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ นี่คือช่วงเวลาสำคัญในการจับจังหวะการเติบโตของเมืองหลวงที่กำลังกลายเป็นหัวใจขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอีกทศวรรษข้างหน้า หากสามารถขับเคลื่อนไปในทิศทางนี้ได้อย่างต่อเนื่อง กรุงเทพฯ จะก้าวขึ้นเป็นมหานครชั้นนำของเอเชียที่เทียบเคียงได้กับสิงคโปร์ โซล และโตเกียวในอนาคตอันใกล้