“PLANET SHIFT 2025: พลิกวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ สู่เมืองยั่งยืนแห่งอนาคต

“PLANET SHIFT 2025: ฝ่าวิกฤตสู่เมืองแห่งอนาคต”

งานฟอรั่มระดับนานาชาติ ว่าด้วยอนาคตเมืองที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00–12.00 น. ณ SX Grand Plenary Hall ชั้น G โครงการ วัน แบงค็อก (One Bangkok) ได้เข้าร่วมงานฟอรั่มพิเศษ “PLANET SHIFT 2025: ฝ่าวิกฤตสู่เมืองแห่งอนาคต” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองในยุคแห่งความเปลี่ยนแปลง

อนาคตไม่ใช่สิ่งที่เรารอรับ แต่เป็นสิ่งที่เราร่วมกันสร้าง 

ภายในงานเริ่มต้นด้วยการกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Shaping the Future of Resilience” โดย ดร. Youssef Nassef ผู้อำนวยการฝ่ายการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation Division) แห่งองค์การสหประชาชาติว่าด้วยกรอบอนุสัญญาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC)

ดร. Nassef ได้กล่าวถึง ความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ (Human Activity) และสะท้อนผ่านสัญญาณภัยพิบัติที่เพิ่มความถี่และความรุนแรงมากขึ้นทั่วโลก ทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม และคลื่นความร้อน ซึ่งเป็นเครื่องเตือนให้มนุษยชาติต้องหันกลับมาทบทวน สมดุลของธรรมชาติ ความยั่งยืน และความพอเพียง โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน (Movement to Renewable Energy) และการออกแบบเมืองอย่างปรับตัว (Adaptive Design) เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของภูมิอากาศในอนาคต พร้อมชี้ให้เห็นว่า ขณะนี้คือ “จุดเปลี่ยนสำคัญ” (Turning Point) ที่สังคมต้องเริ่มมองถึงความยืดหยุ่น (Resilience) ที่ไม่ใช่เพียงการฟื้นตัวจากวิกฤต แต่คือแนวคิดใหม่ในการสร้างระบบเมืองที่พร้อมปรับตัวและอยู่รอดอย่างยั่งยืน

คำถามสำคัญคือ ทำอย่างไร “How to?”

ดร. Nassef ได้กล่าวถึงการปรับแนวคิดการพัฒนา (Development Paradigm) ให้มุ่งสู่การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ มากกว่าการใช้ทรัพยากรเกินจำเป็น ผ่านแนวคิดเมืองฟองน้ำ (Sponge City) และการออกแบบที่คำนึงถึงธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง (Biophilic Design) ที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความจำเป็นในการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยี Visualization Tools เพื่อมองเห็นและทำความเข้าใจผลกระทบเชิงระบบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเผชิญหน้ากับบริบทเศรษฐกิจใหม่ ที่ท้าทายรูปแบบการเติบโตแบบเดิม ให้หันมาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งสู่แนวคิด "Sufficiency และ Sustainability Profit" ที่คำนึงถึงคุณค่าทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล

สุดท้าย ดร. Nassef ฝากแนวคิดสำคัญไว้ว่า

“The future does not happen to us — we happen to the future.”

เพื่อเตือนให้ทุกภาคส่วนตระหนักว่า อนาคตไม่ใช่สิ่งที่เรารอรับ แต่เป็นสิ่งที่เราร่วมกันสร้าง ผ่านการลงมือออกแบบอย่างมีสติและมีวิสัยทัศน์ เพื่อโลกที่ยั่งยืนกว่าเดิม

วิสัยทัศน์ “The Future-Proof Paradigm”: สร้างเมืองที่ยั่งยืนและยืดหยุ่น

ต่อเนื่องด้วยการสนทนาในหัวข้อ “The Future-Proof Paradigm: เส้นทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน” โดย คุณปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด

คุณปณตถ่ายทอดแนวคิดการพัฒนาเมืองภายใต้ “The Future-Proof Paradigm” ซึ่งมุ่งสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับกรุงเทพมหานคร ท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็วของการกลายเป็นเมือง (Urbanization) และการผสมผสานระหว่างเมืองและชนบท (Rural) โดยคุณปณตเน้นว่า หัวใจของการพัฒนาเมืองไม่ได้อยู่ที่การสร้างสิ่งปลูกสร้างเพียงอย่างเดียว (Hardware) แต่คือการสร้าง “พื้นที่ที่ให้ประสบการณ์ (Software)” ที่มีคุณค่าและยั่งยืนต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม

คุณปณตชี้แจงว่า เพียง 30% ของวงจรชีวิตอสังหาริมทรัพย์ มาจากการก่อสร้างทางกายภาพ เช่น อาคาร วัสดุ หรือการตกแต่ง ขณะที่ อีก 70% เกิดจากการบริหารจัดการ (Management) การดูแลรักษา (Maintenance) และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้โครงการสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและสังคมได้อย่างยืดหยุ่น คุณปณตยังยกตัวอย่างถึงกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จจากต่างประทศ เช่น การวางระบบทางเท้า และการเชื่อมต่อการคมนาคมอย่างรถไฟใต้ดิน และแนวคิด Underground City ในอีก 30 ปีข้างหน้า เช่น ที่ญี่ปุ่นและอัมสเตอร์ดัม เพื่อให้เมืองปรับตัวได้แม้แผนการเติบโตจะเปลี่ยนแปลง

คุณปณตได้เน้นย้ำถึง 2 แนวคิดหลักของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน ดังนี้

1. ผู้คนและประสบการณ์: หัวใจของความยั่งยืน : แก่นสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน คือการยึดผู้คนเป็นศูนย์กลาง บริษัทมุ่งสร้างพื้นที่ที่สามารถมอบ “ประสบการณ์ที่ดีและต่อเนื่อง” ให้กับผู้ใช้งาน โดยมี เป้าหมายองค์กรที่ชัดเจน และความเชื่อว่าการให้ความสำคัญกับ “คน” คือหัวใจของการสร้างคุณค่าในระยะยาว

2. การปรับตัวและเทคโนโลยี: กุญแจสู่การบริหารเมืองแห่งอนาคต : อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการ ผสานแนวคิดการปรับตัว เข้ากับเทคโนโลยี เพื่อยกระดับการบริหารจัดการและการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ให้เหมาะสมกับบริบทที่เปลี่ยนไป บริษัทให้ความสำคัญกับการจัดการระยะยาวที่มีความยืดหยุ่น พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดสมดุลระหว่าง “การใช้งาน” และ “การอนุรักษ์”

Sufficiency for Sustainability: ความพอเพียงเพื่อความยั่งยืน

แนวคิดทั้งหมดตั้งอยู่บนพื้นฐานของ “Sufficiency for Sustainability” หรือ “ความพอเพียงเพื่อความยั่งยืน” ซึ่งได้รับการตีความใหม่ให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน หมายถึง ความพอดี ความมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกัน ในมุมมองทางธุรกิจ ความยั่งยืนคือการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ แม้ผลตอบแทนทางการเงินอาจไม่เห็นผลทันที แต่การลงทุนเช่นนี้จะสร้าง “ผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนกว่า” ผ่านความเชื่อมั่นและความภักดีของผู้ใช้งานในระยะยาว

สร้างระบบนิเวศเมือง (Urban Ecosystem) เพื่ออนาคตของกรุงเทพฯ

วิสัยทัศน์ทั้งหมดนี้เกิดจากประสบการณ์ของบริษัทในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการสร้าง “Ecosystem” ที่ทุกภาคส่วน ตั้งแต่ผู้ออกแบบ ผู้ก่อสร้าง ไปจนถึงผู้ใช้งาน ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ เพื่อพิสูจน์ว่าประเทศไทยสามารถสร้างโครงการคุณภาพระดับโลกได้จริง และร่วมผลักดันให้ กรุงเทพมหานครเติบโตอย่างสมดุลทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม จนก้าวสู่การเป็นมหานครแห่งอนาคตที่ยั่งยืนบนเวทีโลก

และนี่คือ วิสัยทัศน์ล้ำหน้าของภาคเอกชนที่มองไปยังอนาคต พร้อมย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือกัน (Collaboration) ระหว่างทุกภาคส่วนในการสร้างเมืองที่ยั่งยืนและสมดุล ในบทความต่อไป เราจะถอดแนวทางและกลไกสำคัญ จากผู้เข้าร่วมเสวนา ตัวจริงจาก ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการเงินที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเมือง ได้แก่

• พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

• อุรเสฏฐ นาวานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการลงทุน โครงการ วัน แบงค็อก (One Bangkok)

• ดร.จิระวัฒน์ ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

อย่าพลาดบทความต่อไปของ LAD! รอติดตามบทเรียนและข้อเสนอแนะจากการเสวนาในหัวข้อ “Sufficiency in City Development: Private & Public Sectors Undertaking”

LAD ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาเมือง พร้อมให้คำปรึกษาและทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างทุกภาคส่วน เพื่อสนับสนุนความร่วมมือและการพัฒนาเมืองให้เติบโตอย่างสมดุล ยั่งยืน และมีคุณค่าในระยะยาว

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :

https://www.sustainabilityexpo.com/sx2025/en/news_details/868

https://www.facebook.com/share/p/1TTheYhRc9/ 

https://prop2morrow.com/852271/

https://www.khaosodenglish.com/sponsored/2025/10/04/youssef-nassef-resilience-is-about-designing-the-future/