top of page
Clip path group
Clip path group

ถอดรหัสศาสตร์ฮวงจุ้ย ไขทำเลทองกรุงเทพฯ

ม.ค. 29

ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

2

39

0


ถอดรหัสศาสตร์ฮวงจุ้ย ไขทำเลทองกรุงเทพฯ

ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้! สุขสันต์วันตรุษจีน!

ในช่วงเวลาสำคัญที่เต็มไปด้วยสิริมงคลนี้ เราขอพาทุกท่านเปิดโลกของ ศาสตร์ฮวงจุ้ย (Feng Shui) ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ความเชื่อโบราณ แต่เป็นวิธีการวิเคราะห์ที่ผสมผสานธรรมชาติ พลังงาน และศักยภาพของพื้นที่เข้าด้วยกัน เพื่อค้นหาทำเลทองที่พร้อมจะส่งเสริมความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรือง


ฮวงจุ้ย (Feng Shui) หรือ "การบริหารพลังงานจากสิ่งแวดล้อม" เป็นปรัชญาจีนโบราณที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลของ "ฮวง" (ลม) และ "จุ้ย" (น้ำ) ซึ่งถือเป็นสายเลือดที่หล่อเลี้ยงพื้นที่ ช่วยให้พลังงาน ชี่ (Qi) ไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมความมั่งคั่งและความเจริญเติบโต โดยศาสตร์นี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในทุกยุคสมัย แม้แต่ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ซึ่งเต็มไปด้วยศักยภาพทางเศรษฐกิจและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง


ทำเลทองกรุงเทพฯ "ท้องมังกร" : จุดยุทธศาสตร์แห่งความรุ่งเรือง

กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบต่ำ ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยถือว่าเป็นจุดที่มีพลังงานสะสมสูง ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของกรุงเทพฯ ช่วยให้พลังงานไหลเวียนได้อย่างดี โดยเฉพาะพลังจากลมที่พัดมาจากอ่าวไทยและน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านเมืองอย่างไม่หยุดนิ่ง ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองที่มีพลังงานหมุนเวียนสมดุลมากกว่าเมืองอื่นๆ


หนึ่งในทำเลทองที่ได้รับการยกย่องตามหลักฮวงจุ้ยคือ “ท้องมังกร” ซึ่งถือเป็นจุดที่พลังงานสะสมตัวอย่างเข้มข้น และมีคุณสมบัติสำคัญ 3 ประการ:



  1. ลักษณะโค้งโอบล้อม: ทำเลที่มีโครงสร้างภูมิศาสตร์ที่โค้งล้อม เช่น โค้งของแม่น้ำหรือถนนที่โอบอุ้มพื้นที่ เหมือนกับการที่มังกรโอบกอด ทำให้พลังงานสะสมตัวอยู่ในพื้นที่นี้


  2. การสะสมพลังงานชี่: จุดที่พลังงานไหลเวียนและหยุดรวมตัว เช่น บริเวณทางโค้งของแม่น้ำ หรือจุดที่ลมไหลเข้ามารวมกัน เป็นการสร้างพลังงานที่ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองในระยะยาว


  3. พลังของน้ำและการเคลื่อนไหว: น้ำในฮวงจุ้ยเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ยิ่งมีน้ำไหลล้อมหรือสะสมในพื้นที่ ก็ยิ่งช่วยเสริมพลังมากขึ้นเป็นพิเศษ


จากลักษณะดังกล่าว เมื่อวิเคราะห์ชัยภูมิและที่ตั้งของกรุงเทพมหานคร จะพบว่า "ท้องมังกร" ซึ่งเป็นทำเลที่เต็มไปด้วยพลังแห่งวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ สะท้อนผ่านพื้นที่สำคัญต่างๆ เช่น ย่านเกาะรัตนโกสินทร์ ที่ซึ่งมีแหล่งพลังงานจากสถานที่สำคัญอย่าง วัดพระแก้ว สนามหลวง และเยาวราช ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่พลังงานไหลมาบรรจบกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำและโครงสร้างถนนที่มีลักษณะโค้งล้อมเหมือนอ้อมกอดของมังกร ทำให้พื้นที่นี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งพลังงานที่ศักดิ์สิทธิ์และสมดุล


นอกจากนี้ ยังพบพื้นที่ที่มีลักษณะโค้งตามถนน เช่น ถนนรอบเยาวราช และย่านพระราม 3 ซึ่งรับพลังจากการไหลเวียนของผู้คนและการสะสมพลังในพื้นที่โค้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงพื้นที่ริมโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น เขตบางรัก สาทร และบางคอแหลม ที่มีลักษณะโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยาเสมือนถ้วย ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ได้รับการสะสมจากการไหลเวียนของน้ำมาอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่เหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการอยู่อาศัย แต่ยังส่งผลดีต่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งเห็นได้จากการเลือกพัฒนาโครงการต่างๆ เช่น เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ และ ไอคอนสยาม ที่ได้ผลักดันการลงทุนและการพัฒนาพื้นที่อย่างเต็มศักยภาพ


การปรับตัวของฮวงจุ้ยในยุคปัจจุบัน: พื้นที่ที่เคลื่อนไหวและศักยภาพของเมือง

ในยุคที่เมืองมีการขยายตัวและพัฒนาอย่างรวดเร็ว หลักฮวงจุ้ยได้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องยึดตายตัวอยู่ที่โค้งแม่น้ำอีกต่อไป ตามหลักฮวงจุ้ย กระแสพลังงานไหลเวียนตามลักษณะภูมิศาสตร์ของพื้นที่ เช่น พื้นที่ราบต่ำหรือจุดโค้งของแม่น้ำ โดยพื้นที่ที่อยู่ในลักษณะดังกล่าวจะมีพลังงานสะสมที่ดีเยี่ยม ศาสตร์ฮวงจุ้ยชี้ว่า ลมและน้ำเปรียบเสมือนสายเลือดที่หล่อเลี้ยงเมือง พื้นที่ที่สามารถดักจับพลังงานจากลมและน้ำได้ดีจะมีศักยภาพสูงในการพัฒนา กรุงเทพฯ มีทำเลที่ได้รับพลังงานจากทั้งสองแหล่งนี้หลายแห่ง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความเจริญของพื้นที่ ได้แก่


  • พื้นที่ใกล้สวนสาธารณะ:พื้นที่ที่เปิดรับลมจากธรรมชาติ พื้นที่รอบสวนลุมพินีและสวนจตุจักร ถือเป็นทำเลที่เต็มไปด้วยพลังงานสะสม สวนสาธารณะเปรียบเสมือนจุดพักพลังงาน และเมื่อมีอาคารล้อมรอบก็จะช่วยเก็บพลังงานไว้ในพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น เช่น ทำเล สีลมและสาทร ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สวนลุมพินี และมีการพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์ที่ประสบความสำเร็จ


  • พื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้า:ตามหลักฮวงจุ้ย พื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวของผู้คนและยานพาหนะ เช่น แนวรถไฟฟ้า BTS และ MRT จะได้รับพลังงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่เหล่านี้เจริญเติบโตได้รวดเร็ว ตัวอย่างเช่น อโศก และ สามย่าน ที่เป็นทั้งศูนย์กลางธุรกิจและที่อยู่อาศัย ถนนและรถไฟฟ้าที่ทำหน้าที่คล้ายกระแสน้ำ ซึ่งช่วยนำพาพลังงานเข้าสู่พื้นที่ แนวรถไฟฟ้า BTS และ MRT ได้กลายเป็นกระแสพลังงานใหม่ เช่น ย่านอโศก และสามย่าน ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจและที่อยู่อาศัยที่สำคัญ

 

ฮวงจุ้ย เข็มทิศนำทาง เพื่อวางแผนการพัฒนาสู่อนาคตที่รุ่งเรือง

จะเห็นได้ว่า ศาสตร์ของฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์จีนโบราณที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับหลักการสากลในการออกแบบและพัฒนาเมืองในปัจจุบันได้ในหลายมิติ โดยเฉพาะการออกแบบเมืองที่ยั่งยืน (Sustainable Urban Design) ที่ให้ความสำคัญกับการจัดการพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ ผ่านการสร้างสมดุลในการใช้พลังงานและการนำพลังงานทางธรรมชาติเข้ามาประยุกต์ใช้ในการออกแบบเมือง


ดังนั้น การวิเคราะห์ทำเลด้วยหลักฮวงจุ้ย คือการเปิดประตูสู่ความสำเร็จที่ใช้ “พลังแห่งธรรมชาติ” มาเป็นเข็มทิศนำทางสู่อนาคตที่มั่นคงและรุ่งเรืองให้พื้นที่นั้นกลายเป็น ทำเลทองกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง


คุณมีมุมมองเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮวงจุ้ยในพื้นที่อื่น ๆ หรือเป้าหมายการลงทุนที่น่าสนใจ? เราพร้อมที่จะช่วยคุณค้นหาทำเลที่ใช่สำหรับการพัฒนาของคุณ! อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของ LAD ได้ ที่นี่

 

ขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพ

หนังสือฮวงจุ้ยทำเลทอง 2 : เจาะลึกทำเลกรุงเทพฯ

https://www.hai-fengshui.com/content/2996/ตำแหน่งวัดที่ถือว่าเป็นสุดยอดฮวงจุ้ยของไทยตั้งอยู่ที่ไหนบ้าง

https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/art-living/1149007

https://lumpinicommunity.com/dragon-belly-location/

https://www.facebook.com/share/1BPWH4R93w/

https://navik.net/wp-content/uploads/2020/10/IMG_4007-1024x683.jpg

https://f.ptcdn.info/389/061/000/pjmqqdypjFjpBYem9nC-o.jpg

https://f.ptcdn.info/187/025/000/1415027613-026-o.jpg

https://www.makesend.asia/wp-content/uploads/2023/05/เยาวราช.jpg

https://s.isanook.com/tr/0/ud/289/1448159/1_cover_sanook_horoscope-20.jpg?ip/crop/w670h402/q80/jpg

โพสต์ที่คล้ายกัน

ความคิดเห็น

แชร์ความคิดเห็นของคุณเชิญแสดงความคิดเห็น คุณคือคนแรกที่แสดงความคิดเห็นที่นี่
bottom of page